ส่องเทรนด์การออกแบบในปี 2021
ปีที่ผ่านมาโลกได้ประสบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แบรนด์ต่างๆ ไม่อาจทนรับความเสี่ยงด้านการออกแบบได้
เราเชื่อว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะเลือกกลับไปใช้วิธีเก่าๆ ที่เคยได้รับความนิยมมาก่อน สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกสงบ เข้าใจได้ง่าย เพื่อช่วยลดระดับความตึงเครียดที่มีต่อโลกที่วุ่นวายนี้
วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า เทรนด์การออกแบบในปี 2021 นั้นจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด
1.การใช้โทนสีอบอุ่น (Muted color palettes) หรือ Earth tone
เป็นสีโทนอบอุ่น ที่เลียนแบบมาจากสีของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสงบและปลอดภัย หรือแม้กระทั้งความรู้สึกห่วงหา เพราะเหตุนี้เราจึงมักเห็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ เลือกใช้โทนสีเหล่านี้ในแบรนด์
เราจะเห็นได้ว่า ปีที่ผ่านมา สีโทนอบอุ่น (Muted color) หรือ Earth tone เข้ามามีบทบาทในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะด้านแฟชั่น การตกแต่งภายใน หรือการออกแบบกราฟิก และคาดว่าโทนสีจะยังคงได้รับความนิยมต่อไปในอนาคต
ตัวอย่างแบรนด์ที่นำสีโทนอบอุ่น (Muted color) มาใช้ได้ดีคือ LinkedIn พวกเขานำไปใช้ในภาพกราฟิกที่โพสบน social media, Landing page เป็นต้น
นอกจากจะทำให้ภาพกราฟิกดูสมจริงมากขึ้นแล้ว ยังทำให้รู้สึกสงบอีกด้วย
Classpass เป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพ ก็เลือกใช้สีโทนอบอุ่นในการนำเสนอได้อย่างสมบูรณ์แบบ
2.การนำข้อมูลมาทำให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย (Data Visualizations)
เป้าหมายของการทำ Data Visualizations คือ การแสดงข้อมูลที่ซับซ้อนให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นกราฟ แผนภูมิ ตัวเลข หรือแม้กระทั้งวิดีโอ
ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ข้อมูลจำนวนมากมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการทำ Data Visualizations เป็นการสร้างคุณค่าให้กับข้อมูล และมองเห็นแนวโน้มของข้อมูลได้กว้างขึ้น
ตามตัวอย่างด้านล่าง จะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงปริมาณการค้นหา (search volume) คำหลักด้านด้านสุขภาพและการออกกำลังกายว่าลดลงอย่างมากในเดือนเมษายน
แต่บางครั้งการใส่ข้อมูลจนมากเกินไป ก็ทำให้รบกวนจุดสำคัญที่ต้องการจะนำเสนอไป
ตามตัวอย่างนี้ ทำให้เราสับสนว่าพวกเขาต้องการจะนำเสนออะไร
แผนภูมิรูปวงกลม เป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะรู้วิธีการอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย ดังนั้นแผนภูมิรูปวงกลมจึงเหมาะสำหรับการใช้บน Social media
จากตัวอย่างอาจจะเป็นเพียงแค่วิธีพื้นฐาน แต่ก็สามารถช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจข้อมูลได้ในเวลาไม่กี่วินาที นอกจากการแสดงภาพข้อมูลอย่างง่ายเหล่านี้จะทำงานได้ดีกับเทรนด์การออกแบบกราฟิกอื่นๆ เช่นสีโทนอบอุ่น (muted colors) และ flat icons
แต่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องสร้างกราฟหรือแผนภูมิเพื่อแสดงข้อมูลของคุณด้วยซ้ำ เพียงสร้างภาพกราฟิกที่มีจุดข้อมูลหรือสถิติที่น่าสนได้ดังนี้
3.การใช้รูปทรงเลขาคณิตในทุกๆ ที่
ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นนักออกแบบนิยมใช้รูปทรง flowing และ abstract ในงานดีไซน์ แต่ในปีนี้พวกเขาหันมาใช้รูปทรงและลวดลายทางเรขาคณิตที่ดูแข็งแรง (hard-edged geometric) และเส้นขอบหนาของรูปทรงเรขาคณิตเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับสีโทนอบอุ่น (muted colors)
ตัวอย่างการใช้ รูปทรง flowing และ abstract ในงานดีไซน์
ต่อมาพวกเขาเปลี่ยนมาใช้ รูปทรงและลวดลายทางเรขาคณิตที่ดูแข็งแรง (hard-edged geometric)
Zendesk ใช้รูปทรงทางเรขาคณิตในการออกแบบของพวกเขาจบกลายเป็นภาพจำของแบรนด์
แม้ว่ารูปภาพที่ใช้จะไม่ได้มีสไตล์ที่สอดคล้องกันนัก แต่ก็มีความสอดคล้องกันเนื่องจากรูปทรงเรขาคณิตที่คล้ายกัน
อีกตัวอย่างหนึ่งจาก Rivet พวกเขาใช้วงกลมในงานเพื่อทำให้รูปภาพของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการมีความคล้ายคลึงกัน
4. Flat Icons และภาพประกอบ (Illustrations)
แนวโน้มการออกแบบจะมีลักษณะเป็นวัฏจักร เทรนด์จะมีการหมุนเปลี่ยนเวียนไปมา
เทรนด์นี้เคยได้รับความนิยมในช่วงปี 2015 และในปีนี้มันก็กลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้ง
Flat Icons และภาพประกอบ (Illustrations) สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับการทำภาพกราฟิกได้หลากหลาย เช่นภาพสำหรับ social media, infographics หรือ presentations
ไอคอนสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสื่อสาร ด้วยภาพไอคอนเพียงไม่กี่ภาพคุณสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นภาพง่ายๆ ซึ่งทำให้การนำเสนอข้อมูลมาประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ฟอนต์ Serif แบบคลาสสิก
Serif และ Sans Serif คือ รูปแบบของฟ้อนต์ที่เรามักจะพบเจอได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันของเราทุกวัน โดยสังเกตความแตกต่างของทั้งสองประเภทนี้ได้ง่าย ตามภาพที่แสดง
แบบอักษร Serif เป็นรูปแบบฟอนต์หรือแบบอักษรที่เก่าแก่ที่สุดรูปแบบหนึ่งที่ยังคงใช้อยู่ มีอายุย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 15 เพราะเหตุนั้นแบบอักษร Serif จึงทำให้ความรู้สึกถึงความคลาสสิกหรูหราหรือน่าเชื่อถือ
Mailchimp ใช้แบบอักษร Serif ในการออกแบบภาพ landing pages ทำให้ดูเป็นแบรนด์ที่ดูน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
หรือไม่ คุณลองจินตนาการถึงแบรนด์ด้านการเงินที่น่าเชื่อ แต่แบรนด์เหล่านั้นเลือกใช้ฟอนต์แบบตัวอย่างด้านล่างนี้
คุณจะเห็นได้ว่าแบรนด์ด้านการเงินนี้ดูไม่น่าเชื่อถือ หรือชวนให้คุณอยากฝากความหวังไว้เลย
บางแบรนด์มีการใช้โทนสีอบอุ่นร่วมกับแบบอักษร serif เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจและน่าเชื่อถือมากขึ้น
6.ชุดภาพสไลด์บนโซเชียลมีเดีย
คือชุดภาพสไลด์ที่ใช้บนโซเชียลมีเดีย มักใช้กันมากบน instagram and LinkedIn ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ภาพเพียงภาพเดียว
ชุดภาพสไลด์ที่ใช้บนโซเชียลมีเดีย ได้รับการสนใจและมีการคลิกดู เพิ่มขึ้น 10 – 20 เท่า
นอกจากนี้โอกาสที่ผู้คนจะอ่านสไลด์ทั้งชุดของคุณบน Instagram นั้นค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการใส่คำบรรยายภาพแบบปกติ
7. วิดีโอที่ประกอบด้วยตัวอักษร
ในปี 2021 มีแนวโน้มของการทำงานอยู่กับบ้านมากขึ้น การจะออกไปถ่ายวิดีโอเป็นเรื่องยากมากขึ้น
และในจุดๆ หนึ่งผู้คนเริ่มเบื่อกับการที่ต้องมานั่งฟังคนพูดผ่านวิดีโอ เพราะนั่นทำให้รู้สึกเหมือนการประชุมผ่าน video conference ที่พบเจอได้บ่อยๆ
ดังนั้นการทำวิดีโอ infographics ที่ประกอบด้วยตัวอักษร และรูปภาพ ในบางครั้งอาจมีการใส่เสียงร่วมด้วย จึงเป็นการเชิญชวนให้เกิดความสนใจมากขึ้นได้
How important is #branding for a company? This Friday, our last session of #ReimagineWithWrike features Dimitrios Papadogonas, VP of Marketing NA at @SolarEdgePV. He’ll share some insightful stories on his experiences as a veteran in the industry. Join us! https://t.co/krAgYhKhpK pic.twitter.com/ev1yTA36FY
— Wrike (@wrike) August 25, 2020
หรือในบางครั้ง อย่างเช่นกรณีที่เราอยู่บนรถไฟฟ้า หรือในที่สาธารณะ การจะเปิดดูวิดีโอต่างๆ ถ้าวิดีโอนั้นๆ มีเพียงภาพและเสียงเท่านั้น อาจทำให้เราพลาดสารบางอย่างที่วิดีโอต้องการสื่อได้
การใส่ตัวอักษรลงไปในวิดีโอจึงช่วยให้สามารถรับข้อมูล หรือสารที่วิดีโอนั้นๆ ต้องการจะถ่ายทอดได้ดีขึ้นนั่นเอง
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://venngage.com/blog/graphic-design-trends/
กดถูกใจเพื่อให้กำลังใจเราด้วยนะครับ