สวัสดีครับ จริงๆ แล้วเรื่องนี้อยากเขียนมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพียงแต่คิดว่าสำนักข่าว ทั้ง main stream และ ออนไลน์ น่าจะทำข่าวไปบ้างแล้ว รวมไปถึงทางการ น่าจะมีวิธีการรับมือที่ดีเพื่อให้เป็นแนวทางของประชาชนทั่วไปได้พึงระวังตัวกับการเข้ามาหลอกลวงของแก๊ง มิจฉาชีพ ที่มาทั้งในรูปแบบของ Call Center หรือ Web Scammer ก็ตาม

แต่สิ่งที่รับทราบมาจากข่าวสารที่ติดตามมาทุกวันก็คือ เป็นเพียงการรายงานข่าวว่าโดนหลอกลวงไปเท่าไหร่ โดนกันยังไง และเป็นการป้องกันของทางรัฐ ในการออก พ.ร.ก. ที่เข้ามาจัดการเรื่อง ซิมผี บัญชีม้า ก็ตาม (แต่น่าจะสามารถใช้ได้ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ตามคำกล่าวของ รมว.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์) ที่ให้อำนาจรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กสทช และ ภาคการธนาคารเข้ามาจัดการได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ภาพข่าวจาก TNN THAILAND https://www.tnnthailand.com/news/social/137067/

แต่กระนั้นก็อาจจะยังไม่ได้เป็นการป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับดังนั้นผมจึงอยากนำเสนอข้อแนะนำหากต้องเผชิญกับแก๊ง Call Center มิจฉาชีพเหล่านี้

  1. ติดตั้ง Application ที่มีชื่อว่า WhosCall ซึ่งเป็น Application ที่สามารถแจ้ง หรือแนะนำได้ว่าหมายเลขโทรศัพท์นั้นเป็น เบอร์ที่มีการแจ้งเตือนว่าสายที่โทรเข้ามานั้นเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ข้อความที่เข้ามานั้นเป็นข้อความที่ผู้ส่งไม่ปลอดภัยหรือเปล่า โดยข้อมูลที่นำมาแนะนำนั้นมาจากฐานข้อมูลของผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านบัญชี และฐานข้อมูลกลางของทาง WhosCall เอง ซึ่งน่าจะปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถโหลดใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android
  2. ไม่กดปุ่ม LINK ใด ๆ ที่ถูกส่งมากับข้อความ SMS โดยปกติแล้วข้อความที่ถูกส่งจาก SMS นั้นจะถูกส่งด้วยระบบ Bulk SMS หรือ SMS Gateway ซึ่งผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วไป จะมีความร่วมมือกับผู้ให้บริการเพื่อใช้ในการทำการตลาดอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ก็น่าจะยังเป็นช่องเล็ก ๆ ที่ผู้ไม่หวังดีนั้นจะใช้เครื่องมือนี้ในการส่งข้อความไปถึงเหยื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียงแค่มีหมายเลขโทรศัพท์อยู่ในมือเท่านั้น ซึ่งในแง่ของฐานข้อมูลของเหยี่อ มิจฉาชีพอาจจะใช้วิธี Scan จากหน้าเว็บไซต์ทั่ว ๆ ไปเช่น เว็บไซต์คนละครึ่ง เว็บไซต์ถุงเงิน หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีการแสดงหมายเลขโทรศัพท์อยู่ในหน้าเว็บไซต์เลย หรือแม้กระทั่งใช้วิธีเขียนโปรแกรมสุ่มขึ้นมา (วิธีนี้ได้ผลน้อย เนื่องจากไม่มีข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติม ไม่เหมือนหน้าเว็บไซตืถุงเงินที่จะมีชื่อร้าน ที่อยู่ วิธีการรับชำระเงินอยู่เลย ซึ่งหากพูดข้อมูลนี้ได้ ทางร้านค้า หรือเหยื่อจะสามารถเข้าใจผิดว่าเป็นการโทรจากหน่วยงานรัฐได้มากยิ่งขึ้น)
  3. ระลึกไว้เสมอว่า หน่วยงานรัฐไม่มีทางติดต่อเราทาง LINE แน่นอน โดยปกติแล้วการทำงานของหน่วยงานรัฐ จำเป็นต้องทำงานอย่างมีหลักฐาน ทุกอย่างต้องดำเนินการเป็นเอกสารทั้งหมด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นน้อยมาก ๆ หรือแทบไม่มีเลย ที่จะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกับเราผ่าน LINE ทั่วไป แต่อาจจะมีบ้างที่หน่วยงานนั้นๆ จะมี LINE Official Account ซึ่งจะเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการ แต่โดยส่วนใหญ่บัญชี LINE Official Account เหล่านี้จะถูกออกแบบหรือพัฒนาให้เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ มีปุ่ม Rich Menu ต่าง ๆ ให้สามารถติดต่อสอบถามได้ แต่ก็คงไม่ได้คุยกับทาง Admin อย่างสะดวกโยธินแน่ ๆ
  4. ไม่โอนเงินไปยังบัญชีชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชื่อหน่วยงานที่เราติดต่อเด็ดขาด หน่วยงานรัฐ หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ จะมีการเปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับทำธุรกรรมทางการเงินเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่จะให้พนักงานคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับเงินแทน หากต้องการที่จะทำการชำระเงิน หรือโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางที่เป็นชื่อบุคคล หรือ promptpay นั้นขอให้สละเวลาสักนิดโทรไปยังหน่วยงานที่ติดต่อมาเพื่อสอบถาม หรือตรวจสอบความถูกต้องก่อน มิฉะนั้นเงินที่คุณโอนไปจะไม่ได้รับคืนอีกเลย
  5. ไม่โหลด application ใดๆ ที่อยู่นอก App Store หรือ Google Play Store เพราะ Application เหล่านั้นจะเป็นเป็นเหมือนม้าโทรจัน ที่จะเข้ามาฝังตัวอยู่ในโทรศัพท์ของเราและควบคุมโทรศัพท์ของเพื่อทำการเข้าถึง Mobile Banking ที่เราใช้งานเพื่อโอนเงินออกไปยังบัญชีปลายทาง โดยส่วนใหญ่มิจฉาชีพ จะพุ่งเป้าไปที่โทรศัพท์ Android มากกว่าเนื่องจากการอนุญาติสิทธิในการติดตั้ง Application สามารถทำงานได้ง่ายกว่าและสะดวกกว่า iOS มาก
  6. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว หรือกรอกรหัส passcode ลงไปใน application ที่โหลดมาจากแหล่งอื่นนอก App Store / Google Play Store หรือแหล่งอื่นที่ไม่มั่นใจ เนื่องจากขัอมูลส่วนตัวนั้น ๆ อาจจะเป็นฐานข้อมูลใหักับมิจฉาชีพในการเข้าไปแก้ไขข้อมูลของ Mobile Banking หรือรหัส Passcode ส่วนใหญ่ผู้ใช้งานจะใช้เป็นรูปแบบเดียวชุดเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นหากเรากรอกเข้าไปใน application ของมิจฉาชีพ ปลายทางเองก็สามารถรู้รหัสของเครื่องเราได้และจะช่วยให้การโอนเงินออกจาก Mobile Banking นั้นทำได้อย่างง่ายดาย

ผมเชื่อว่า 6 ข้อข้างต้นนี้น่าจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับแก๊งมิจฉาชีพ Call Center ได้ดียิ่งขึ้น

แจ้งความออนไลน์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (thaipoliceonline.com)

ปล. ถ้าอยากเอาคืนหรือล้างแค้นพวก call center ที่หลอกให้ โอนเงิน ไปบัญชีปลายทาง แนะนำว่าหากทางมิจฉาชีพให้เลขบัญชีมาแล้ว แนะนำให้โอนแค่ 1 บาท แล้วเอาหลักฐานการโอนนั้นแจ้งความออนไลน์หรือเอาหลักฐานไปแจ้งความเอาผิดกับบัญชีม้าเหล่านั้นเลยครับหรือหากไม่มั่นใจกับการแจ้งความออนไลน์ผมว่าส่งหลักฐานไปให้เพจอีเจี๊ยบหรือเพจกรรมกรข่าวก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีครับผม

ปอ. ส่วนตัวโหลด application นั้นไม่ต้องไปล้างแค้นครับ หนีได้หนีจ้า

ปฮ. ส่วนหมายเลขโทรศัทพ์ที่โทรเข้ามา หรือ ส่ง sms เข้ามา ให้นำหลักฐานแจ้งความไปด้วยเลยจ้า เพราะหมายเลขโทรศัพท์หากเป็นหมายเลขในไทย ยังไงคนเปิดเบอร์ก็ต้องยืนยันตัวตน น่าจะลากมาเอาผิดได้

กดถูกใจเพื่อให้กำลังใจเราด้วยนะครับ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *